จากสตาร์ทอัพสู่บริษัทพันล้านดอลลาร์

สารคดีใหม่, จระเข้ในแม่น้ำแยงซี เปิดตัวด้วยฉากที่เหมือนฝัน: บรรจุลงในสนามกีฬามังกรเหลืองของหางโจวในฤดูใบไม้ร่วงปี 2552 พนักงานอาลีบาบา 16,000 คนโบกไม้เรืองแสงในความมืด ร้องเพลงและสวดมนต์ของนายจ้าง ( อาลีอาลีบาบา! อาลีอาลีบาบา! !). ขนาดใหญ่ รำมังกร dragon ผ่านฝูงชน มันเป็นสภาพแวดล้อมที่อึกทึกไม่ต่างจากการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ—เพียงซาวด์แทร็กของ ราชาสิงโต กำลังส่งเสียงดัง ทันใดนั้น แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท โผล่ออกมาจากประตูกับดักในเวทีขนาดยักษ์ กีตาร์อยู่ในมือ คาดเข็มขัดสองสามท่อนแรกของเพลง 'Can You Feel the Love Tonight' ของเอลตัน จอห์น

เจสัน สเตแธม มาจากประเทศอะไร

'คนนอกบริษัทคิดว่าเขาเป็นคนบ้า' พอร์เตอร์ เอริสมัน ผู้บรรยายและผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ 'แต่พวกเราในบริษัทรู้ดีกว่า'

จระเข้ในแม่น้ำแยงซี บอกเล่าเรื่องราวของแจ็ค หม่า ผู้ประกอบการสีสันสดใสที่เปิดตัว Alibaba.com บริษัทอีคอมเมิร์ซ B2B ที่ใหญ่ที่สุดและใหญ่ที่สุดของจีน Ma ก่อตั้งธุรกิจจากอพาร์ตเมนต์แบบหนึ่งห้องนอนของเขาที่จุดสูงสุดของฟองสบู่เทคโนโลยีในปี 2542 และเติบโตจนกลายเป็นบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ที่มีพนักงาน 20,000 คน

Porter Erisman ซึ่งเข้าร่วมแผนกการตลาดของบริษัทในปี 2542 ได้ร่วมงานกับบริษัทมาเกือบทศวรรษและได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทโดยตรง

สิ่งที่พิเศษเป็นพิเศษ—เกือบเป็นปริศนา—เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือความกว้างของฟุตเทจที่เก็บถาวรที่ Erisman สามารถรับและนำไปใช้ได้ ที่จริงแล้วไม่มีบทสัมภาษณ์ใหม่กับ Ma หรือพนักงานในบริษัทแต่อย่างใด—ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้คลิปการประชุม งานปาร์ตี้ และสุนทรพจน์ของบริษัทเท่านั้น มันเหมือนกับเวอร์ชั่นชีวิตจริงของ เครือข่ายสังคม . เฉพาะในภาษาจีนกลาง

ฉันได้พูดคุยกับ Erisman เมื่อเร็วๆ นี้ และถามเขาว่าทำไม Ma ถึงเลือกบันทึกการโต้ตอบของบริษัทตั้งแต่กลางปี ​​1990

'ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาอยู่ในอพาร์ตเมนต์นั้น พวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังสร้างสิ่งที่จะยิ่งใหญ่' Erisman บอกฉันโดยสังเกตว่า Ma อนุญาตให้เขาเข้าถึงที่เก็บถาวรของบริษัท 'พวกเขาถ่ายทำทุกอย่าง ฉันมีวิดีโอมากเกินไป

อันที่จริง ฉากในอพาร์ตเมนต์ของหม่าเป็นหนึ่งในฉากที่ดึงดูดใจที่สุดของหนังเรื่องนี้ ฉากนี้คือจุดกำเนิดของสิ่งที่จะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นคำทำนายที่แปลกประหลาด—และยังคงแม่นยำเหมือนเดิม

'คนอเมริกันเก่งเรื่องฮาร์ดแวร์และระบบ' หม่าเล่าถึงพนักงานในอนาคตนับสิบคน ขณะที่เขายืนงุ่มง่ามอยู่ในห้องนั่งเล่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 'แต่สำหรับข้อมูลและซอฟต์แวร์ สมองของจีนก็เก่งพอๆ หากเราเป็นทีมที่ดีและรู้ว่าเราอยากทำอะไร เราคนใดคนหนึ่งสามารถเอาชนะพวกเขาได้ 10 คน เราสามารถเอาชนะหน่วยงานของรัฐและบริษัทที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ได้เนื่องจากจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของเรา หุ้นของ Yahoo จะตก หุ้นของอีเบย์จะเพิ่มขึ้น และบางทีหลังจากที่หุ้นของอีเบย์ร่วง อาลีบาบาก็จะเพิ่มขึ้น ความฝันของอินเทอร์เน็ตจะไม่ระเบิด'

Erisman ซึ่งจบ MBA จาก Northwestern ไม่มีประสบการณ์ในการตัดต่อภาพยนตร์มาก่อน 'ฉันไม่สามารถเปิดไฟล์ได้ครึ่งหนึ่ง' เขาบอกฉัน ในปี 2010 เขาเข้าเรียนที่ New York Film Academy เพื่อเข้าชั้นเรียนตัดต่อ และในที่สุดก็โน้มน้าวให้ครูตัดต่อของเขา Guiseppe De Angelis มาช่วยเขาตัดต่อภาพยนตร์

สารคดีดังกล่าวให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความยากลำบากในการก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลควบคุมสื่อและอินเทอร์เน็ต ก่อนหน้าที่ Alibaba.com Jack Ma พยายามสร้าง ChinaPages.com ซึ่งเป็นไซต์สมุดหน้าเหลืองสำหรับธุรกิจ แต่หลังจากพยายามขออนุมัติจากรัฐบาลหลายครั้ง หม่าก็ถอยกลับด้วยความพ่ายแพ้

คือจัสติน เบทแมนเป็นเลสเบี้ยน

'ไม่สำคัญว่าฉันล้มเหลว' Ma กล่าวในปี 1995 'อย่างน้อยฉันก็ส่งต่อแนวคิดนี้ให้คนอื่น'

จากนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเข้าสู่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของอาลีบาบาในจีน ซึ่งสื่อมองว่าอาลีบาบาจะลุกขึ้นสู้กับอีเบย์ในฐานะการต่อสู้ระหว่างเดวิดกับโกลิอัท

ขณะที่บริษัทเติบโตขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ดอทคอมล่มในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Erisman ได้บันทึกความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นของการเริ่มต้นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่

'ภายในบริษัทมีความโกลาหลเพิ่มขึ้น' Erisman บรรยายกลางเรื่องในภาพยนตร์ 'องค์กรใช้จ่ายเร็วเกินไป และมีการแบ่งส่วนที่เพิ่มขึ้นระหว่างทีมผู้บริหารจีนและต่างประเทศ เรากำลังหลงทาง

แกรี่ ฟิลด์ แต่งงานกับแดเนียล สเปนเซอร์

ท่ามกลางความวุ่นวาย บริษัทได้เปิดตัว TaoBao.com ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับอีเบย์ และแม้ว่าบริษัทจะระดมทุนหลายร้อยล้านจากผู้ร่วมทุน และขายบริษัท 40% ให้กับ Yahoo ในราคา 1 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทก็กำลังเผาไหม้ด้วยเงินสด

ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสงครามของบริษัท และชัยชนะเหนือ eBay ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดของจีนในท้ายที่สุด แต่ยังเผยให้เห็นการต่อสู้ส่วนตัวของ CEO ที่ถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจเรื่องยากๆ และเผชิญหน้ากับความล้มเหลวและความผิดพลาดของตัวเองในบางครั้ง

ในฉากที่สะเทือนอารมณ์เป็นพิเศษ Erisman เล่าถึงโทรศัพท์กับ Ma หลังจากที่บริษัทเลิกจ้างสาขาในอเมริกาทั้งหมด

'เขาถามฉันว่าฉันคิดว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่' Erisman กล่าว 'ฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เขามั่นใจ'

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์ที่งาน Sonoma International Film Festival ในวันที่ 12 เมษายน แต่ Erisman เกือบจะไม่ยอมรับตัวเองเกี่ยวกับโอกาสของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จะประสบความสำเร็จในกระแสหลัก เขาไม่มีแม้แต่เว็บไซต์ที่ตั้งขึ้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มี หน้าเฟสบุ๊ค หลังจาก Sonoma Erisman จะฉายสารคดีที่ Palm Beach International Film Festival ในวันที่ 14 เมษายนและ 19 เมษายน และจากนั้นในเมือง Eugene รัฐ Oregon ในวันที่ 27 เมษายน ที่เทศกาลภาพยนตร์ Disorient Asian American Film

กลยุทธ์ของเขาคือการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้แก่ผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด โดยหวังว่าจะสร้างกระแสในชุมชนสตาร์ทอัพ ซึ่งอาจขับเคลื่อนออกไปภายนอกได้

'ฉันชอบที่จะแสดงบน Facebook' เขากล่าวโดยสังเกตการเสนอขายต่อสาธารณะครั้งแรกของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น 'เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความดีและความชั่วของการเป็นโกลิอัท'